เปิดเส้นทางชีวิตของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติผู้สร้าง วัดร่องขุ่น ที่กลายเป็นแลนด์มาร์กของ จังหวัดเชียงราย และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ปัจจุบันเจ้าตัวตัดสินใจเลิกวาดรูปอย่างจริงจัง พร้อมประกาศใช้ชีวิตที่เหลือไปกับการขี่มอเตอร์ไซค์ท่องเที่ยวอย่างอิสระจนวันสุดท้ายของชีวิต
จุดเริ่มต้นและการศึกษา
อาจารย์เฉลิมชัยเกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2498 ที่บ้านร่องขุน ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เป็นบุตรของนายไพศาล โฆษิตพิพัฒน์ และนางพรศรี อยู่สุข เติบโตท่ามกลางธรรมชาติและวัฒนธรรมพื้นถิ่นที่ซึมซับในสายเลือดตั้งแต่วัยเด็ก
จบชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนบัวสลี บ้านร่องขุน จังหวัดเชียงราย และชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนดรุณศึกษา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ก่อนย้ายเข้ากรุงเทพฯ เพื่อศึกษาต่อระดับ ปวช. ที่โรงเรียนเพาะช่าง และต่อปริญญาตรีศิลปบัณฑิต สาขาศิลปไทย (รุ่นแรก) จากคณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
ระหว่างเรียนชั้นปีที่ 4 เขาสร้างผลงานอันโดดเด่นจนได้รับเหรียญทองจากการประกวดระดับชาติ หลังสำเร็จการศึกษาในปี 2522 ก็เลือกเส้นทางศิลปินอิสระอย่างเต็มตัวและยึดเป็นอาชีพหลักเรื่อยมา
ผลงานและเกียรติประวัติ
อ.เฉลิมชัยสร้างผลงานจิตรกรรมไทยอันทรงคุณค่าหลายชิ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ จิตรกรรมไทยในอุโบสถ วัดพุทธประทีป กรุงลอนดอน ประเทศ สหราชอาณาจักร, การเขียนภาพประกอบบทพระราชนิพนธ์ พระมหาชนก และศิลปกรรมอันอลังการภายในวัดร่องขุ่นที่ผสานทั้งงานสถาปัตยกรรม ประติมากรรมปูนปั้น และจิตรกรรมไทยไว้อย่างวิจิตร
ด้วยผลงานที่โดดเด่น เขาได้รับการยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) เมื่อปี พ.ศ. 2554 นับเป็นเกียรติสูงสุดที่ตอกย้ำบทบาทของเขาในแวดวงศิลปะไทย
ชีวิตครอบครัว
ในด้านชีวิตส่วนตัว อ.เฉลิมชัยสมรสกับคุณกนกวัลย์ โฆษิตพิพัฒน์ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2535 ทั้งคู่มีบุตรชาย 1 คน คือ ณภัส โฆษิตพิพัฒน์ หรือที่รู้จักกันในชื่อเล่นว่า “น้องแทน” ซึ่งเติบโตท่ามกลางบรรยากาศของศิลปะที่พ่อสร้างไว้
หมุดหมายสำคัญในเส้นทางศิลป์
- พ.ศ. 2523 ก่อตั้งกลุ่ม “ศิลปไทย 23” เพื่อเคลื่อนไหวต่อต้านอิทธิพลศิลปะจากยุโรปและอเมริกา
- พ.ศ. 2527 เริ่มโครงการเขียนจิตรกรรมฝาผนังวัดพุทธประทีป กรุงลอนดอน โดยทำงานฟรีไม่คิดค่าจ้าง
- พ.ศ. 2539 ทุ่มทุนส่วนตัวสร้างวัดร่องขุ่น บ้านเกิดที่เชียงราย เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและสร้างให้เป็นงานพุทธศิลป์ระดับโลก
- พ.ศ. 2541 เขียนภาพจิตรกรรมติดพระตำหนัก จังหวัด กระบี่
- พ.ศ. 2548 ออกแบบและก่อสร้าง หอนาฬิกาเชียงราย บนถนนบรรพปราการ กลายเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมือง
เหตุผลสุดเฟี้ยวที่ประกาศเลิกวาดรูป
เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2565 ลูกศิษย์ได้เผยคลิปที่ อ.เฉลิมชัย ตอบคำถามแฟนศิลปะว่าเหตุใดถึงไม่วาดภาพแล้ว เห็นเพียงออกทริปขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวไปเรื่อยเปื่อย ซึ่งเจ้าตัวตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า
“สำหรับมึงคงจะเป็นอย่างนั้น แต่สำหรับกู กูรู้จักพอ กูไม่ชอบที่จะเป็นคนวาดรูปเขียนรูปแบบเอาจริงเอาจังจนวันตาย กูทำมาเยอะแล้ว และตอนนี้ไม่ทำแล้ว กูอยากพักผ่อน กูอยากใช้ชีวิตที่มีความสุขก่อนที่กูจะตาย”
เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่อายุ 55 ปี เริ่มปล่อยวางงานลงเรื่อยๆ พอถึง 60 ปี ก็ยิ่งเบา พออายุ 65 ปีจึงตัดสินใจเลิกจริงจัง ปล่อยให้ทีมงานบริหารวัดร่องขุ่นแทน พร้อมประกาศกับลูกเมียว่า “พอแล้ว” ให้ลูกออกไปสร้างชีวิตเอง
“ผมมีความปรารถนาตั้งแต่เด็กว่าถ้าอายุถึง 65 ปีและยังมีชีวิตอยู่ จะเที่ยวอย่างเดียวไม่ทำอะไรสักอย่าง ขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวกับลูกศิษย์แล้วก็ตายไปเลย”
อาจารย์ย้ำว่า เขาออกกำลังกายให้แข็งแรงเพื่อขี่มอเตอร์ไซค์ นั่งสมาธิภาวนาเพื่อยอมรับความตาย และใช้ชีวิตให้มีอิสรภาพช่วงบั้นปลาย โดยวาดรูปเพียงเพื่อพักผ่อนสนุกๆ เท่านั้น
“ไม่อยากเห็นชีวิตตัวเองทำงานหาเงินให้ลูกหลานจนล้มป่วยแล้วตายไป โดยไม่ได้ใช้ชีวิตเที่ยวพักผ่อน ผมเลือกแล้ว เลือกทางแห่งความสุขของตัวเองยามแก่เฒ่า แล้วตาย”
คำกล่าวเหล่านี้สะท้อนความคิดที่ชัดเจนและเป็นเอกลักษณ์ของเขา ว่าแม้จะเป็นศิลปินระดับตำนาน แต่ชีวิตก็มีค่าพอๆ กับศิลปะ และควรใช้มันเพื่อความสุขในแบบที่ตัวเองปรารถนาอย่างแท้จริง.





