หากพูดถึงชื่อ “หมอแอร์” หลายคนคงนึกถึงภาพของผู้หญิงเก่งที่มีทั้งความสามารถ ความงาม และความเฉียบคมในทุกบทบาท พ.ต.อ.หญิง แพทย์หญิง อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล ถือเป็นหนึ่งในบุคคลต้นแบบของผู้หญิงยุคใหม่ที่สามารถโลดแล่นได้ในหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็นแวดวงแพทย์ วงการสื่อ และสายงานราชการตำรวจ โดยผลงานและบทบาทของเธอได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนจำนวนมาก
ต้นกำเนิดและเส้นทางการศึกษา
หมอแอร์ เกิดเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2521 ที่อำเภอปราสาท จังหวัด สุรินทร์ ในครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนที่ประกอบกิจการค้าขายและปั๊มน้ำมัน โดยเธอเป็นบุตรสาวคนที่ 4 ของครอบครัว หลังเรียนจบมัธยมศึกษาจากโรงเรียนสิรินธร จังหวัดสุรินทร์ เธอมุ่งหน้าศึกษาต่อด้านแพทยศาสตร์จนสำเร็จปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิตจาก มหาวิทยาลัยขอนแก่น ก่อนจะก้าวสู่การเรียนเฉพาะทางด้านจิตเวชเด็กและวัยรุ่นที่คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล อันเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้เธอมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
บทบาทในสายงานตำรวจ
แม้จะเป็นแพทย์โดยตรง แต่ หมอแอร์ กลับเลือกเส้นทางรับราชการตำรวจใน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยรับหน้าที่สำคัญหลายด้าน อาทิ ตำแหน่งรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และโฆษกศูนย์รักษาความสงบในยุครัฐบาลของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อีกทั้งยังปฏิบัติหน้าที่แพทย์ประจำกลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติดของ โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการประสานงานทั้งด้านวิชาชีพการแพทย์และการบริหารงานราชการได้อย่างกลมกลืน
ก้าวสู่สายสื่อและวงการบันเทิง
นอกเหนือจากบทบาทในเครื่องแบบ หมอแอร์ ยังมีชื่อเสียงในวงการสื่อ ด้วยการเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์หลากหลาย เช่น รายการ Love Life Idol, Club X, สบาย@night, อมยิ้ม และ คนละดาวเดียวกัน รวมถึงยังเคยร่วมแสดงละครเทิดพระเกียรติเรื่อง “แผ่นดินทอง” ซึ่งสะท้อนความสามารถรอบด้านและบุคลิกที่มั่นใจจนกลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
ประเด็นร้อนแรงที่เคยเป็นข่าว
ด้วยความที่เป็นบุคคลสาธารณะ หมอแอร์ จึงมีประเด็นที่ตกเป็นกระแสสังคมอยู่เป็นระยะ หนึ่งในกรณีที่ถูกพูดถึงมากคือการเดินทางไปคลอดบุตรที่ประเทศ สหรัฐอเมริกา เพื่อให้บุตรได้รับสัญชาติอเมริกัน ซึ่งกลายเป็นที่ถกเถียงอย่างกว้างขวางบนโลกออนไลน์ รวมไปถึงประเด็นส่วนตัวอื่น ๆ ที่เคยถูกสื่อจับตามองและถูกพูดถึงในหน้าข่าว
ผู้หญิงมากความสามารถของสังคมไทย
เมื่อมองภาพรวมชีวิตและเส้นทางของ หมอแอร์ จะเห็นได้ว่าเธอคือหนึ่งในผู้หญิงยุคใหม่ที่สามารถสร้างชื่อเสียงและบทบาทได้หลากหลาย ทั้งในฐานะแพทย์ ตำรวจ พิธีกรสื่อมวลชน และบุคคลสาธารณะผู้ใช้ความรู้ความสามารถของตนเพื่อขับเคลื่อนสังคม เธอไม่เพียงรักษาผู้ป่วยด้วยความเชี่ยวชาญ แต่ยังใช้เสียงและความคิดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและความเปลี่ยนแปลงให้กับผู้คนในวงกว้างอย่างแท้จริง





