เคยสังเกตหรือไม่ว่า “เรือ” ไม่ว่าจะเป็นเรือโดยสารข้ามฟาก เรือบรรทุกสินค้า หรือแม้แต่เรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ มักไม่มีไฟหน้าส่องทางเหมือนรถยนต์ ทั้งที่ต้องเดินทางในเวลากลางคืนเช่นเดียวกัน
เรื่องนี้หลายคนอาจมองว่าน่าสงสัย แต่แท้จริงแล้วเป็นสิ่งที่ “ตั้งใจออกแบบ” และมีเหตุผลสำคัญด้านความปลอดภัยทางการเดินเรือโดยตรง
ไฟหน้าบนเรืออาจก่ออันตรายมากกว่าช่วย
บนท้องถนน แสงไฟหน้าที่สว่างมากช่วยให้ผู้ขับรถมองเห็นเส้นทาง สิ่งกีดขวาง และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ แต่ในท้องทะเลกลับไม่เหมือนกัน เพราะหากใช้ไฟหน้าส่องแรงๆ แสงจะสะท้อนกับละอองน้ำ หมอก หรือแม้แต่ผิวน้ำ ทำให้เกิดการรบกวนสายตา กัปตันหรือผู้ควบคุมเรืออาจมองระยะไกลได้ยากกว่าเดิม
ที่สำคัญ ดวงตามนุษย์สามารถมองเห็นในที่มืดได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อไม่มีแสงจ้าเข้ามารบกวน ดังนั้นการปล่อยให้ดวงตาปรับสภาพเองจึงเหมาะสมต่อการเดินเรือในเวลากลางคืนมากกว่า
เรือพึ่งพาระบบนำทาง ไม่ได้อาศัยแค่สายตา
การเดินเรือยุคใหม่ไม่จำเป็นต้องใช้เพียงการมองตรงหน้า เพราะมีเทคโนโลยีช่วยนำทางหลายระบบ เช่น เรดาร์ โซนาร์ GPS และแผนที่อิเล็กทรอนิกส์ (ECDIS) ซึ่งทำให้กัปตันสามารถตรวจสอบตำแหน่ง ทิศทาง และสภาพเส้นทางได้อย่างแม่นยำ แม้อยู่ท่ามกลางความมืดในทะเลลึก
ไฟที่ใช้จริงคือ “ไฟแสดงตำแหน่ง”
แม้ไม่มีไฟหน้า เรือทุกลำก็ต้องมี “ไฟเดินเรือ” (navigation lights) ตามข้อบังคับความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งใช้เพื่อบอกตำแหน่งและทิศทางให้กับเรือลำอื่น โดยมีหลักการที่กำหนดไว้ชัดเจน เช่น
- ไฟสีแดงอยู่ที่กราบซ้าย
- ไฟสีเขียวอยู่ที่กราบขวา
- ไฟสีขาวติดตั้งที่ท้ายเรือและเสากลาง
ไฟเหล่านี้ทำหน้าที่คล้าย “ภาษาสากล” ที่ช่วยให้เรือทุกลำเข้าใจทิศทางของกันและกัน ป้องกันการชนกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไฟส่องสว่างเฉพาะจุด เปิดใช้เมื่อจำเป็น
ในบางกรณี เช่น ตอนเรือเข้าเทียบท่า เข้าใกล้ชายฝั่ง หรือเวลาทำงานบนดาดฟ้า กัปตันอาจเปิดไฟส่องเฉพาะจุด เช่น ไฟหัวเรือ สปอตไลต์ หรือไฟดาดฟ้า เพื่ออำนวยความสะดวก แต่ไฟเหล่านี้จะถูกปิดเมื่อเรือออกเดินทางในทะเลเปิด
บทสรุป
สาเหตุที่เรือไม่มีไฟหน้าเหมือนรถยนต์ ไม่ใช่เพราะขาดความปลอดภัย แต่เพราะไฟหน้ากลับทำให้การมองเห็นในที่มืดแย่ลง อีกทั้งการเดินเรือในปัจจุบันใช้ระบบนำทางที่ล้ำสมัยและไฟแสดงตำแหน่งตามมาตรฐานสากลแทน การไม่มีไฟหน้าจึงถือเป็นมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่ช่วยให้การเดินเรือปลอดภัยมากยิ่งขึ้น





