“หนังเกรดสาม” คืออะไร? ย้อนสมัยวัยว้าวุ่น คนอายุ 30+ ต้องรู้จักเป็นอย่างดี

หากพูดถึงคำว่า “หนังเกรดสาม” หลายคนที่อายุ 30+ ขึ้นไปย่อมต้องเคยได้ยิน และบางคนอาจแอบเคยดูมาแล้วในวัยเด็ก โดยเฉพาะในยุค 90s จนถึงต้น 2000s ที่คำนี้แพร่หลายในวงกว้างของสังคมไทยอย่างมาก วันนี้เราจะพาย้อนรอยไปทำความเข้าใจว่าแท้จริงแล้ว หนังเกรดสามคืออะไร และทำไมถึงยังอยู่ในความทรงจำของผู้คนมาจนถึงปัจจุบัน

ที่มาของคำว่า “หนังเกรดสาม”

ในอดีต วงการภาพยนตร์ไทยไม่มีระบบการจัดเรตอย่างเป็นทางการเหมือนปัจจุบัน แต่มีการเรียกหนังตามคุณภาพและทุนสร้างเป็นเกรดต่าง ๆ เช่น เกรด A, เกรด B และเกรด C หรือที่เรียกติดปากว่า “เกรดสาม”

  • หนังเกรด A คือหนังฟอร์มใหญ่ ใช้ทุนสูง โปรดักชันคุณภาพ 
  • หนังเกรด B คือหนังตลาดกลาง เน้นความบันเทิงเชิงพาณิชย์ 
  • หนังเกรด C (เกรดสาม) คือหนังทุนต่ำ จุดขายหลักคือฉากเร้าอารมณ์ โดยเฉพาะแนวอีโรติก 

ด้วยเหตุนี้ คำว่า “หนังเกรดสาม” จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของภาพยนตร์แนวอีโรติกหรือกึ่งโป๊ ที่ฉายในโรงหนังชั้นสองหรือตามร้านวิดีโอเช่าเมื่อราว 20-30 ปีก่อน

หนังเกรดสามจากหลายประเทศ

ไทย
ในประเทศไทย หนังเกรดสามถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ปลายยุค 80s และบูมในช่วง 90s ส่วนใหญ่เป็นแนวรัก–ดราม่า–อีโรติก ที่เน้นฉากเลิฟซีนเพื่อเรียกผู้ชม หนังเหล่านี้มักถูกสร้างโดยค่ายเล็ก ๆ และจัดจำหน่ายผ่านโรงหนังชั้นสองหรือวิดีโอซีดีเช่า

ฮ่องกง
ต้นกำเนิดจริงของคำว่า Category III มาจากระบบเรตภาพยนตร์ของฮ่องกง โดยหนังในเรตนี้ถูกจำกัดให้ผู้ใหญ่ 18+ เท่านั้น และในยุค 90s ฮ่องกงสร้างหนังเกรดสามที่โด่งดังไปทั่วเอเชีย เช่น Sex and Zen หรือ Erotic Ghost Story หลายเรื่องถูกนำเข้าไทยและสร้างแรงบันดาลใจให้นักทำหนังไทย

ญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นมี Pink Film (พิงก์ฟิล์ม) ตั้งแต่ยุค 60s ซึ่งถือเป็นหนังอีโรติกเชิงศิลป์ ก่อนจะพัฒนาไปสู่ AV (Adult Video) ที่คนทั่วโลกรู้จัก แม้ไม่ได้ใช้คำว่า “เกรดสาม” โดยตรง แต่คนไทยมักเชื่อมโยงกับหนังญี่ปุ่นเช่นกัน

เกาหลีใต้
เกาหลีใต้เองก็มีหนังแนว Softcore ออกมาในช่วง 90s–2000s ถึงแม้ไม่ได้ถูกเรียกว่า “เกรดสาม” แต่เมื่อนำเข้ามาฉายในไทย ร้านวิดีโอมักจัดอยู่ในหมวดเดียวกัน

ลักษณะของหนังเกรดสาม

  • ทุนสร้างต่ำ เน้นการถ่ายทำง่าย ๆ ไม่มีเทคนิคพิเศษ
  • ฉากวาบหวิวเป็นจุดขาย มากกว่าหนังทั่วไป
  • นักแสดงหน้าใหม่ หลายคนเริ่มต้นจากหนังแนวนี้ ก่อนก้าวไปสู่วงการบันเทิงที่จริงจัง
  • พล็อตเรื่องเรียบง่าย เน้นความรักใคร่ ดราม่าเล็กน้อย เพื่อรองรับฉากอีโรติก

ความนิยมในยุค 90s–2000s

ช่วงที่ร้านวิดีโอเทปและวีซีดีเฟื่องฟู หนังเกรดสามถือว่าเป็นสินค้าขายดี หลายเรื่องถูกพูดถึงปากต่อปากจนกลายเป็นตำนาน วัยรุ่นในสมัยนั้นมักมองว่าเป็น “ความลับกึ่งเปิดเผย” ที่แอบดูในบ้าน บางพื้นที่ก็มีโรงหนังเฉพาะที่ฉายหนังประเภทนี้อย่างจริงจัง

ทำไมคนอายุ 30+ ถึงจดจำได้ดี

เพราะนี่คือช่วงวัยที่เติบโตมากับ ยุควิดีโอเช่า หนังเกรดสามกลายเป็นเหมือนความลับเล็ก ๆ ที่หลายคนเคยสัมผัส สื่อบันเทิงในเวลานั้นยังมีตัวเลือกจำกัด เมื่อมีหนังที่เต็มไปด้วยความเร้าใจแบบนี้จึงถูกจดจำอย่างแม่นยำ

ปัจจุบันยังมีอยู่หรือไม่?

ปัจจุบันคำว่า “หนังเกรดสาม” แทบไม่ได้ถูกใช้แล้ว เนื่องจากระบบการจัดเรตในไทยมีมาตรฐานชัดเจน เช่น เรต 18+ หรือ 20+ อีกทั้งความบันเทิงแนวอีโรติกก็ถูกย้ายไปอยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์แทน แต่สำหรับคนวัย 30+ คำนี้ยังคงฝังอยู่ในความทรงจำในฐานะ “วัฒนธรรมบันเทิงยุคเก่า” ที่สะท้อนสังคมไทยในช่วงเวลานั้นได้เป็นอย่างดี

Scroll to Top