เมื่อวันที่ 15–16 กรกฎาคม 2568 กรมการข้าวจัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร ลงพื้นที่ศึกษาดูงานด้านการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพของศูนย์ข้าวชุมชนในจังหวัดปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา ภายใต้โครงการเสริมสร้างศักยภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวของศูนย์ข้าวชุมชน โดยพาสื่อฯ เยี่ยมชมการดำเนินงานของศูนย์ข้าวชุมชนตำบลรอบเมือง อำเภอเมืองปราจีนบุรี และศูนย์ข้าวชุมชนนาข้าวบ้านหนองปรือ ตำบลเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อเผยแพร่ผลสำเร็จของโครงการ พร้อมส่งเสริมให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งเมล็ดพันธุ์ข้าวพันธุ์ดีได้มากยิ่งขึ้น
นายชัยยพล ชาวเมืองสีวสุ ประธานศูนย์ข้าวชุมชนตำบลรอบเมือง เปิดเผยว่า ศูนย์ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2544 ปัจจุบันมีสมาชิก 20 ราย ครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูกกว่า 3,500 ไร่ ตลอดเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา กลุ่มได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดตั้งเป็นศูนย์ข้าวชุมชน วิสาหกิจชุมชน และห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ชาวเมืองสีวสุ โดยมีเป้าหมายเดียวกันคือยกระดับคุณภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรในพื้นที่ พันธุ์ข้าวที่นิยมปลูก ได้แก่ กข45, กข85 และกข89 ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการตลาดและเหมาะกับสภาพพื้นที่
ศูนย์ข้าวชุมชนตำบลรอบเมืองยังเน้นการวางแผนการผลิตอย่างเป็นระบบ ทั้งการบริหารจัดการภายใน การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ และการพัฒนาแผนการตลาด เพื่อให้กระบวนการผลิตและการกระจายผลผลิตเป็นไปอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน นอกจากนี้ ยังบูรณาการเทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น รถดำนา 8 แถวเพื่อลดปัญหาข้าววัชพืช รถหยอดข้าวแทนแรงงานคนเพื่อประหยัดเวลาและต้นทุน โดรนทางการเกษตรช่วยหว่านเมล็ดและปุ๋ย เครื่องอัดฟางและเครื่องสับย่อยฟางเพื่อลดการเผาตอซัง รวมถึงเครื่องผสมปุ๋ยนาข้าวอัตโนมัติและเครื่องบรรจุข้าวเปลือก เพื่อยกระดับคุณภาพตลอดห่วงโซ่การผลิต โดยรอบการปลูกจะเริ่มช่วงปลายเมษายน–มิถุนายน และเก็บเกี่ยวในช่วงปลายพฤศจิกายน–ธันวาคมของทุกปี
ด้านนายเชิดศักดิ์ แสงศรี ประธานศูนย์ข้าวชุมชนนาข้าวบ้านหนองปรือ จังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ศูนย์แห่งนี้ก่อตั้งมาแล้ว 4 ปี มีสมาชิก 21 ราย ได้รับการสนับสนุนจากโครงการลดต้นทุนการผลิตของกรมการข้าวตั้งแต่ปี 2567 ทำให้กลุ่มมีความเข้มแข็งและพร้อมด้วยเทคโนโลยี เครื่องจักรสำคัญที่ใช้ ได้แก่ เครื่องอบลดความชื้นเมล็ดพันธุ์ เครื่องคัดทำความสะอาดเมล็ดพันธุ์ โดรนสำหรับหว่านปุ๋ย และรถไถ ซึ่งมีระบบการจองคิวใช้งานอย่างเป็นระบบ ส่งผลให้การทำนามีประสิทธิภาพสูง ลดความสูญเสียจากสภาพอากาศแปรปรวน และลดการพึ่งพาแรงงาน
ปัจจุบันสมาชิกไม่จำเป็นต้องซื้อเมล็ดพันธุ์จากภายนอก เพราะสามารถผลิตเมล็ดพันธุ์คุณภาพได้เอง โดยในปีนี้นับเป็นปีที่ 2 ที่ได้รับการสนับสนุนจากกรมการข้าว กระบวนการคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ของศูนย์เริ่มจากการคัดแปลงที่ให้ผลผลิตได้มาตรฐาน เมื่อเก็บเกี่ยวจะนำข้าวเข้าเครื่องอบและคัดสิ่งเจือปน จากนั้นส่งตรวจวิเคราะห์คุณภาพ หากผ่านเกณฑ์จะนำกลับมาเป็นเมล็ดพันธุ์เพื่อจำหน่าย ส่วนเมล็ดที่เหลือจะนำไปแปรรูปเป็นข้าวสารเพื่อจำหน่ายในชุมชน โดยมีโรงสีรองรับ และวางแผนพัฒนาต่อยอดเป็นแบรนด์และบรรจุภัณฑ์ของกลุ่ม เพื่อขยายตลาดผู้บริโภคในอนาคต ทั้งหมดเป็นข้าวปลอดสาร ไม่ใช้สารเคมีหรือยาฆ่าแมลง
นายเชิดศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ก่อนหน้านี้ เราใช้พัดลมเป่าข้าว ทำให้การคัดเมล็ดพันธุ์ไม่ได้คุณภาพ แต่หลังจากได้รับเครื่องคัดทำความสะอาดเมล็ดพันธุ์ ทำให้สามารถผลิตเมล็ดที่มีคุณภาพทัดเทียมกับท้องตลาดได้จริง”
การจัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจรครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งที่สอดคล้องกับนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มุ่งส่งเสริมให้ศูนย์ข้าวชุมชนทำหน้าที่เป็นกลไกหลักในการพัฒนาภาคเกษตรไทย โดยเฉพาะด้านเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพ ทั้งในระดับพื้นที่และระดับประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับเกษตรกรและประชาชนทั่วไปในระบบการผลิตเมล็ดพันธุ์ของศูนย์ข้าวชุมชนอย่างยั่งยืน.





