ฝนตก-ลมแรงเสี่ยง “หน้าเบี้ยว”! หมอชี้คนวัยทำงานก็โดนได้ ไม่ใช่แค่ผู้สูงอายุ

ในช่วงที่ฝนตกหนักและลมแรง หลายคนอาจตื่นมาพร้อมความตกใจเมื่อพบว่าครึ่งใบหน้าของตนเองเบี้ยว ปากเอียงหรือหลับตาไม่ได้ข้างหนึ่ง ซึ่งเป็นสัญญาณของภาวะอัมพาตใบหน้าครึ่งซีก หรือที่เรียกกันว่า เส้นประสาทใบหน้าอักเสบ ล่าสุด ดร.เอ๊า วัน เค่ แพทย์จากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์แห่งนครโฮจิมินห์ สาขา 3 ประเทศเวียดนาม ออกมาเปิดเผยว่า ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาด้วยอาการนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยไม่ได้จำกัดอยู่แค่ผู้มีโรคประจำตัวเท่านั้น แม้แต่คนอายุ 20-30 ปีที่มีสุขภาพแข็งแรงก็ไม่รอด

เคสหนึ่งที่เกิดขึ้นจริง เป็นหญิงอายุ 30 ปี ที่ตื่นเช้ามาด้วยอาการปากเบี้ยว หลับตาไม่สนิทข้างขวา แม้พยายามบรรเทาอาการด้วยการนวดแผนโบราณแต่กลับไม่ดีขึ้น สุดท้ายเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล พบว่ามีความเสียหายที่เส้นประสาทคู่ที่ 7 ด้านขวา จากการใช้วิธีรักษาร่วมกันทั้งแผนปัจจุบันและแผนจีน เป็นเวลาสามสัปดาห์ อาการฟื้นตัวได้ถึง 80% โดยเฉพาะกล้ามเนื้อบนใบหน้า

แพทย์ระบุว่าต้นเหตุของโรคนี้ส่วนใหญ่เกิดจากความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิแบบฉับพลัน โดยเฉพาะลมเย็นจัดและฝนตกหนัก ที่ไปกระตุ้นให้หลอดเลือดบนใบหน้าหดตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้เลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอ อีกทั้งยังเกี่ยวข้องกับเชื้อไวรัส เช่น เริม (HSV-1) และงูสวัด รวมถึงโรคประจำตัวที่เกี่ยวข้องกับระบบไหลเวียนอย่างเบาหวานและความดัน

ในแง่ของแพทย์จีน มองว่าอาการดังกล่าวเกิดจากลมเย็นหรือ “风寒” ที่เข้าแทรก ส่งผลให้พลังลมและเลือดติดขัดในบริเวณใบหน้า หากไม่รีบรักษา จะทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าหดตัวจนถาวร หรือเกิดพังผืด ส่งผลต่อทั้งรูปลักษณ์และสุขภาพจิต

สัญญาณเตือนที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่ ปากเบี้ยว ร่องจมูกไม่ตรง คิ้วตก หลับตาไม่ได้ น้ำลายไหล หรือกลืนลำบาก ในบางรายอาจรู้สึกเจ็บบริเวณหูหรือหูอื้อ

คุณหมอแนะนำวิธีป้องกันง่าย ๆ เช่น หลีกเลี่ยงลมเย็น ไม่อาบน้ำตอนดึก ไม่เปิดแอร์ใส่หน้าโดยตรง และไม่ควรนั่งหน้าพัดลมนานเกินไป รวมถึงสวมหมวกหรือผ้าคลุมเวลาต้องเดินตากลมหรือฝน

ท้ายที่สุด แพทย์เตือนว่า “โรคนี้ไม่ใช่แค่เรื่องความสวยความหล่อ แต่กระทบถึงการใช้ชีวิต หากเริ่มมีอาการ ควรรีบไปพบแพทย์โดยไม่นวดเอง เพราะการรักษาเร็วคือหัวใจของการฟื้นฟูอย่างมีประสิทธิภาพ”