โค้ชเช: ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของวงการเทควันโดไทย

ชัชชัย เช หรือที่รู้จักกันในนาม “โค้ชเช” เป็นบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของวงการเทควันโดไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสร้างนักกีฬาระดับโลกอย่าง เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนานิภาส ผู้คว้าเหรียญทองโอลิมปิกได้ถึงสองสมัย ซึ่งสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยไปทั่วโลก

โค้ชเช มีชื่อเดิมว่า ชเว ย็อง-ซ็อก เป็นชาวเกาหลีใต้ที่เข้ามาทำงานในฐานะผู้ฝึกสอนให้กับทีมเทควันโดทีมชาติไทย ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์อันยาวนานในวงการเทควันโด ทำให้เขาสามารถพัฒนานักกีฬาไทยให้ก้าวสู่ระดับโลกได้อย่างน่าประทับใจ

ค่าตอบแทนที่คุ้มค่ากับฝีมือ

สำหรับค่าตอบแทนของโค้ชเช นั้น การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้กำหนดหลักเกณฑ์เงินเดือนสำหรับผู้ฝึกสอนไว้อย่างชัดเจน โดยแบ่งเป็นสองกลุ่มหลัก คือ ผู้ฝึกสอนชาวไทยและผู้ฝึกสอนชาวต่างประเทศ

ในกรณีของโค้ชเช ซึ่งเป็นผู้ฝึกสอนชาวต่างประเทศและได้รับการยอมรับในระดับผู้เชี่ยวชาญ เงินเดือนของเขาจะอยู่ในช่วง 100,000 ถึง 150,000 บาทต่อเดือน ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่สูงที่สุดในบรรดาผู้ฝึกสอนทั้งหมด

ความแตกต่างของค่าตอบแทน

เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ฝึกสอนชาวไทย จะเห็นได้ว่ามีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ โดยผู้ฝึกสอนชาวไทยจะได้รับเงินเดือนตั้งแต่ 20,000 ถึง 50,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับระดับและสถานะการจ้างงาน ในขณะที่ผู้ฝึกสอนชาวต่างประเทศระดับทั่วไปจะได้รับไม่เกิน 60,000 บาทต่อเดือน และระดับสูงจะได้รับระหว่าง 60,000 ถึง 100,000 บาทต่อเดือน

ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าตอบแทน

การที่โค้ชเชได้รับค่าตอบแทนในระดับสูงนั้น มีปัจจัยสำคัญหลายประการ ได้แก่:

1. ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ: โค้ชเชมีประสบการณ์การสอนและการแข่งขันในระดับนานาชาติมายาวนาน
2. ผลงานที่โดดเด่น: การสร้างนักกีฬาระดับโอลิมปิกได้หลายคน โดยเฉพาะเหรียญทองถึงสองสมัย
3. ความเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ: ชื่อเสียงของโค้ชเชเป็นที่รู้จักในวงการเทควันโดทั่วโลก
4. การอุทิศตนให้กับวงการกีฬาไทย: การทำงานอย่างทุ่มเทเพื่อพัฒนาวงการเทควันโดของไทยมาอย่างยาวนาน

สรุปแล้ว แม้ว่าค่าตอบแทนของโค้ชเชจะอยู่ในระดับที่สูง แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ากับความสามารถและผลงานที่เขาได้สร้างให้กับวงการกีฬาไทย การลงทุนในผู้ฝึกสอนที่มีคุณภาพเช่นนี้ ถือเป็นการลงทุนในอนาคตของวงการกีฬาของประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีในระยะยาวทั้งในแง่ของชื่อเสียงและความสำเร็จในเวทีระดับนานาชาติ